อาชีพทหาร ผู้รักษาความปลอดภัย

โรงเรียนเตรียมทหารนั้นจะรับสมัครนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ขึ้นไป อายุ 15 – 18 ปี ซึ่งจะมีการเปิดรับในช่วงเดือน มกราคม – มีนาคม ของทุกปี และจะทำการสอบคัดเลือกในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งโรงเรียนเหล่าทัพทั้ง 4 นั้น จะสอบพร้อมกันหมด (รวมโรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วย) ในส่วนการสอบคัดเลือกนั้นจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ ในรอบแรกนั้นจะเป็นการสอบภาควิชาการใน 5 วิชาหลักด้วยกัน ได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย การสอบในรอบที่สองนั้น จะเป็นการสอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถภาพร่างกายในด้านต่างๆ ในแต่ละปีนั้นจะมียอดผู้สมัครสอบเฉลี่ย 15,000 – 20,000 คน แต่โรงเรียนเตรียมทหารนักเรียนได้เพียงปีละ 600 กว่าคน เท่านั้น ดังนั้น นักเรียนคนใดที่ต้องการจะสมัครและผ่านเข้าไปตามเส้นทางที่ตั้งใจไว้ก็ต้องมีการเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า – จะได้รับการศึกษาทางด้านวิชาการในระดับปริญญาตรี โดยสามารถที่จะเลือกเรียนสาขาใดสาขาหนึ่งได้ ซึ่งจะมีการเปิดให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละปี สาขาวิชาต่างๆนั้นจะประกอบด้วย
-ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต 9 สาขา คือ วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร วิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมอุตสาหกรรม วิศวกรรมอากาศยาน วิศวกรรมสรรพาวุธ และวิศวกรรมสำรวจ
-ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต 5 สาขา คือ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ทั่วไป วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และ เคมีประยุกต์ทางการทหาร
-ศิลปศาสตรบัณฑิต3 สาขา คือ บริหารรัฐกิจ บริหารทั่วไป และสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา

โรงเรียนนายเรือ – สาขาวิชาต่างๆนั้นจะเปิดขึ้นตามความต้องการของกองทัพเรือ คือ วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกลเรือ วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมอุทกศาสตร์ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมอากาศยาน วิศวกรรมต่อเรือ วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ บริหารศาสตร์ การจัดการทรัพยากรชายฝั่งและสิ่งแวดล้อม

โรงเรียนนายเรืออากาศฯ – หลักสูตรการศึกษานั้นจะเป็นไปตามที่โรงเรียนนายเรืออากาศกำหนด มีสาขาวิชาที่ให้ได้เลือกศึกษาได้แก่ สาขาวิศวกรรมอากาศยาน สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สาขาวิศวกรรมโยธา สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ สาขาคอมพิวเตอร์ และสาขาวัสดุศาสตร์ทางการทหารและอากาศยาน ตามที่กองทัพอากาศกำหนดในแต่ละปีการศึกษา เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต หรือวิทยาศาสตร์บัณฑิต

คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นนักเรียนเตรียมทหารหลักสูตรมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สอบผ่านทุกรายวิชา ตามที่กำหนดในแผนการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่าขึ้นไป
2. อายุไม่ต่ำกว่า 14 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 17 ปี บริบูรณ์ในปีที่จะเข้ารับการศึกษษเป็นนักเรียนเตรียมทหาร การนับอายุให้นับตามพระราชบัญญัติทางการทหาร
3. มีสัญชาติไทย รวมไปถึง บิดา – มารดา ผู้ให้กำเนิด ต้องเป็นสัญชาติไทย แต่หากบิดาเป็น นายทหาร ตำรวจ สัญญาบัตร หรือ นาย ทหาร ตำรวจ ประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด มารดานั้นจะไม่ใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
4. มีอวัยวะ รูปร่าง ลักษณะท่าทาง เหมาะสมแก่การเป็นทหารและตำรวจ ไม่มีโรคที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร และตามที่กองบัญชาการทหารสูงสุดกำหนดไว้
5. ขนาดของร่างกายนั้น ต้องมีขนาดพิกัดความสมบูรณ์ ตามตารางร่างกายที่กำหนดไว้ในระเบียบการทั่วไปไม่ต่ำกว่าเกณฑ์
6. เป็นชายโสด
7. เป็นผู้มีความประพฤติ ไม่บกพร่องศีลธรรม เสื่อมใสในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
8. ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างตกเป็นจำเลยในคดีอาญา หรือไม่ต้องคำพิพากษาของศาลว่าได้กระทำความผิดอาญา เว้นแต่ ความผิดในฐานลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
9.ไม่อยู่ในระหว่างพักราชการ เนื่องจากความผิดหรือหนีราชการ
10. ไม่เคยถูกไล่ออก หรือถูกปลดออกจากสถานศึกษษ ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนทหาร โรงเรียนตำรวจ หรือถูกทางราชการไล่หรือปลดออก ทั้งนี้เนื่องจากความผิด
11. ไม่เป็นผู้เสพยาเสพย์ติด หรือสารเคมีเสพย์ติดให้โทษตามกฎหมาย
12. ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับส่วนราชการใดๆ อันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
13. บิดา มารดา และผู้ปกครอง เป็นผู้มีอาชีพสุจริตชอบธรรมและมีหลักฐานเชื่อถือได้
14. เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาติจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองในการสมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
15. มีผู้ปกครองและผู้รับรองซึ่งสามารถที่จะรับรองข้อความและพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้

**หมายเหตุ** คุณลักษณธดังกล่าวในข้อ 1 – 15 หากปรากฎว่าเป็นความเท็จขึ้นภายหลังที่รับเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้ว จะต้องพ้นจาก ฐานะนักเรียนเตรียมทหารทันที